มารู้จักกับ “Company Profile Video” กันเถอะ
เมื่อบริษัทต่างๆคิดที่จะสร้างวิดีโอเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเอง สิ่งแรกที่พวกเขานึกถึงคือวิดีโอแนะนำบริษัท วิดีโอนี้มักจะเป็นเพียงสิ่งที่ดูเหมือนเป็นวิดีโอที่อยู่ในหน้าแรกของเว็บไซต์เพื่อแนะนำบริษัท และวิดีโอเหล่านี้สามารถเรียกได้ด้วยชื่อที่แตกต่างกัน เราอาจคุ้นหูกันในชื่อ ‘Company Profile Video’ แต่บางคนก็เรียกว่า ‘sales video’ เนื่องจากวิดีโอนี้เป็นส่วนที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ และส่วนใหญ่แล้วการสร้างวิดีโอมาจากการแนะนำของนักออกแบบเว็บไซต์หรือจาก CEO ที่ต้องการให้มีวิดีโอเหล่านี้ขึ้นมา และที่สำคัญที่สุดวิดีโอของคุณต้องทำให้ทุกคนที่มาดูแล้วจดจำ แต่ถ้าการทำวิดีโอแนะนำบริษัทของคุณไม่มีจุดประสงค์อะไรเลย แน่นอนว่าจะเกิดผลเสียที่ตามมาร้อยเปอร์เซนต์
ยิ่งชัดเจนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีชัยไปมากกว่าครึ่ง !!
วิดีโอในหน้าแรกของคุณสามารถช่วยจัดอันดับ Google ได้ โดยปกติจะเป็นการเพิ่มระยะเวลาการดูบนหน้าเว็บของผู้ชมให้มากขึ้น แต่การจัดอันดับ Google ที่ดีขึ้นไม่ได้ช่วยธุรกิจของคุณเสมอไป การเพิ่มเวลาการดูบนเว็บไซต์ของคุณจะไม่มีความหมาย หากข้อความนั้นสร้างความสับสนให้กับคนที่เข้ามาดู วิดีโอแนะนำบริษัททั่วไปจะมุ่งเน้นไปที่บริษัท แต่จริงๆแล้วเราควรเน้นที่ความต้องการของลูกค้าหรือผู้รับบริการ เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจประวัติบริษัทของคุณมากนัก พวกเขาสนใจว่าคุณจะแก้ปัญหาให้พวกเขาได้อย่างไรมากกว่า จึงทำให้วิดีโอมีความสำคัญอย่างยิ่ง ผู้คนส่วนใหญ่ชอบการสื่อสารที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย ฉะนั้นลองใช้วิธีการเหล่านี้ดู เพราะมันสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้และช่วยให้บริษัทได้ตามที่ต้องการเลยล่ะ
ก่อนสร้างวิดีโอ ต้องรู้ว่าธุรกิจของเราแก้ปัญหาอะไร?
ก่อนที่คุณจะสร้างวิดีโอขึ้นมา สิ่งแรกเลยคือบริษัทของคุณต้องมีความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าจุดประสงค์ของวิดีโอนี้คืออะไรและเหมาะสมกับกระบวนการขายอย่างไร เพราะนี่คือหนึ่งในสิ่งที่วิดีโอหลักจะเป็นช่องทางการขายผ่านวิดีโอของคุณ และต้องรู้ว่าเพราะอะไรคนจึงเข้าดูเว็บไซต์ของคุณ แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณขาย ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่คุณอยากได้แบบไหน ดังนั้นจึงต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน บริษัทส่วนใหญ่พร้อมแก้ปัญหาให้คุณ วิดีโอของคุณควรเริ่มต้นด้วยการบอกปัญหาที่พวกเขามีกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านภายนอกหรือภายใน การตลาดส่วนใหญ่สามารถจัดการกับปัญหาด้านรูปลักษณ์ได้ คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่วิดีโอขององค์กรทั้งหลายมีอะไรที่เหมือนกัน
วิธีหาทางออกที่ดี คือวิธีที่ไม่ซ้ำใคร?
การพูดคุยเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหา อาจไม่ใช่ทางออกของบริษัทของคุณ แต่มันเป็นวิธีที่บริษัทของคุณแก้ปัญหานั้นๆ ยิ่งวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใครมากเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งการมีวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใครจะทำให้ได้เปรียบคู่แข่งของคุณมากขึ้น
Feedback จากลูกค้า คือสิ่งสำคัญ
การเพิ่มฟีดแบคจากลูกค้าช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าเราจะถูกคนอื่นพูดถึงว่าเราเจ๋งสักแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่าประโยคเหล่านั้นมันมีค่าต่อผู้ชมมากกว่า แน่นอนมันฟังดูปกติทั่วไป แต่สุดท้ายแล้วลูกค้าจะมีความสุขและพึงพอใจ หากเราได้ทำตามฟีดแบคที่ลูกค้าต้องการ
บอกพวกเขาว่าเราจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
สิ่งแรกที่เราต้องคำนึงในการทำวิดีโอคือต้องบอกพวกเขาว่าจะทำอะไรต่อไป มันอาจฟังดูตลกสักหน่อย แต่หากมองการวิจัยทางการตลาดแล้วบอกให้เรารู้ว่าผู้คนต้องได้รับรู้ว่าขั้นต่อไปคืออะไร ซึ่งหากคุณแนะนำว่าขั้นต่อไปให้ทำอะไร แต่พวกเขาไม่ทำก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยคุณได้บอกให้รู้ว่าพวกเขาควรทำอะไรต่อไป อาจคิดว่าโฆษณาทางทีวีหลายรายการไม่มี CTA (Call-To-Action) ที่แข็งแรง แต่นั่นเพราะพวกเขามีเป้าหมายที่แตกต่างจากโฆษณาในช่องทางอื่น โฆษณาทางทีวีส่วนใหญ่มีไว้เพื่อให้รับรู้สิ่งนั้นๆ และเหมือนกันกับวิดีโอแนะนำบริษัทจะต้องมีข้อความเพื่อกระตุ้นยอดขายที่เราอาจได้ยินผ่านหูในจอทีวี เช่น โทรหาเรา หรือติดต่อเรา หรือถ้ายังนึกภาพไม่ออกละก็มีตัวอย่างง่ายๆเลยคือ หากเราเป็นผู้ขายที่อยากให้ซื้อสิ่งที่เราเสนอ เราก็งัดไม้เด็ดออกมากับคำพูดที่ว่า “ซื้อเลย”หรือขอใบเสนอราคาก็ได้ สิ่งนี้แหละที่ช่วยให้พวกเขารับรู้ว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไรนั่นเอง
สื่อสารแบบคนปกติ
วิดีโอแนะนำบริษัทส่วนใหญ่ควรประมาณ 2-3 นาที หากมากกว่านั้นโอกาสที่คนเข้ามาดูจนจบนั้นน้อยมาก หรือให้พูดอีกแบบหนึ่งคือเราแนะนำให้ลองสร้างวิดีโอเพิ่มเติมและเช็คให้แน่ใจว่าวิดีโอตัวนี้ได้ถูกนำเสนออย่างถูกต้องในรูปแบบการสื่อสารระหว่างคนกับคน พูดง่ายๆคือเราต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนนั่นเอง บริษัทส่วนใหญ่โดยเฉพาะบริษัท B2B สร้างวิดีโอและเว็บไซต์แบบไม่แสดงใบหน้า นี่แหละมันคือสิ่งที่ผิดพลาดในการนำเสนอ ยิ่งบริษัทด้านซอฟต์แวร์ยิ่งไปกันใหญ่ ฉะนั้นแล้วการแสดงตัวตนในวิดีโอของคุณเป็นวิธีที่รวดเร็วและโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆแน่นอน
Animation ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
วิดีโอแนะนำบริษัทของคุณไม่ควรเป็นภาพเคลื่อนไหวทั้งหมด วิดีโอแอนิเมชันหรือวิดีโอกราฟิกแบบเคลื่อนไหวเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอธิบายแนวคิดหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน หากคุณต้องการอธิบายสิ่งเหล่านี้ คุณสามารถใช้แอนิเมชั่นร่วมกับคนจริงๆได้ แต่ห้ามใช้เพียงอย่างเดียว วิดีโอแนวนี้เพิ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มีความคล้ายคลึงและได้รับความนิยมเพราะมีราคาถูกในการผลิต ปัญหาอันดับหนึ่งคือพวกเขาไม่ได้ใช้คนจริงๆในวิดีโอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเชื่อมต่อกับผู้ชมได้ดีนัก วิดีโอแนะนำบริษัทของคุณควรช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ได้เร็วขึ้นและคุณไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้หากไม่มีคนร่วมอยู่ในวิดีโอนั้นๆ
สร้างความเป็นมืออาชีพโดยขอความช่วยเหลือกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
อย่างที่เรารู้กันดีว่าสคริปต์สำหรับ Company Video มีความซับซ้อนมาก เราต้องเช็คว่าเราให้นักเขียนบทมืออาชีพคิดสคริปต์วิดีโอนี้ขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพยายามสร้างสคริปต์ด้วยตัวเองและผลที่ออกมาอาจไม่เป็นไปตามที่คิด ดังนั้นเราจึงต้องลงทุนกับการทำวิดีโอประเภทนี้ อาจมีค่าใช้จ่าย 20,000 บาทหรือมากกว่านั้น เพราะวิดีโอแนะนำบริษัทของคุณจะมีอายุอย่างน้อย 5 ปี ดังนั้นจงให้ความสำคัญในบทสคริปต์ ยิ่งสร้างวิดีโอได้ยากมากเท่าไหร่ คู่แข่งอื่นๆจะทำตามยากขึ้นเท่านั้น และวิดีโอประเภทนี้มีอีกหลายอย่างที่เราต้องวางแผน ดังนั้นเราต้องแน่ใจว่าวิดีโอนี้จะแสดงถึงแบรนด์ของคุณได้อย่างเหมาะสมที่สุด
จะใช้ที่ไหน
เราได้บอกกับคุณแล้วในย่อหน้าแรกว่า Company Profile Video ควรอยู่ในหน้าแรกของเว็บไซต์ กำชับเลยว่าอย่าได้ซ้อนวิดีโอนี้ในหน้า “เกี่ยวกับเรา” โดยเด็ดขาด เพราะผู้ชมไม่ได้ชมหน้านี้เป็นหน้าแรกๆ แน่นอน เนื่องจากพวกเขาไม่ได้สนใจว่าเป็นใครจนกว่าจะรู้ว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาอะไรให้กับพวกเขาได้บ้าง ดังนั้นเราควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าการออกแบบเว็บไซต์จะช่วยให้วิดีโอนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้คนจะเข้าดูเว็บไซต์ โดยเราต้องขยายวิดีโอตัวนี้ในหลายช่องทาง เช่นโซเชียลมีเดีย และวิดีโอของคุณควรโพสต์ลงโซเชียลทุกๆ 3 เดือน นอกจากนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของ กลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายใหม่บนโซเชียล เช่น โฆษณาแบบวิดีโอบน Facebook รวมถึงควรใช้โปรแกรมที่เช็คว่ามีใครดูวิดีโอของเราบ้าง มีจำนวนเท่าไหร่ และสามารถรายงานข้อมูลไปยัง CRM (Customer Relationship Management) ได้ หรือบ่อยครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงนิดเดียว วิดีโอนี้สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดในการอธิบายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงบริษัทได้อีกด้วย สุดท้ายแล้วก่อนที่จะเริ่มเขียนสคริปต์ของวิดีโอ เราต้องวางแผนที่จะกระตุ้นยอดขาย ส่วน Company Profile Video หรือวิดีโอแนะนำบริษัทควรเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายที่มีคุณค่ามากที่สุด