iPad Pro ตัวใหม่ของ Apple สร้างมาเพื่อใคร?
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดเกี่ยวกับ iPad Pro ในปีนี้คือตอนนี้มันใช้โปรเซสเซอร์เดียวกันกับ Mac รุ่นล่าสุด นั่นคือชิป M1. iPad Pro มีโปรเซสเซอร์ที่เร็วมาก ๆ มาโดยตลอด แต่การมีโปรเซสเซอร์แบบเดียวกับเดสก์ท็อปนั้นเป็นเรื่องที่พลิกโฉมหน้าในวงการแทบเล็ตเลยทีเดียว
Apple อ้างว่าชิปตัวใหม่นี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์มากกว่ารุ่นเก่าเมื่อปีที่แล้ว แต่โดยทั่วไปแล้ว การนำเสนอพลังการประมวลผลของเดสก์ท็อปไปใส่ในแท็บเล็ตนับเป็นการก้าวไปอีกขั้น
แน่นอนว่าคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ iPad Pro สามารถใช้งาน MacOS ได้หรือไม่ หรือมีแผนวางเอาไว้แล้วหรือไม่?
คำตอบว่าจะมาพร้อมกับ MacOS หรือไม่ ณ ตอนนี้: คำตอบก็คือ ไม่. ทำไมล่ะ? Apple มีความสนใจเกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถในการทัชให้กับแพลตฟอร์ม macOS แม้ว่าจะเป็นมาตรฐานบนคอมพิวเตอร์ Windows ไปแล้วก็ตาม
แม้ว่า Microsoft ได้เพิ่มโปรเซสเซอร์ Intel ลงในแท็บเล็ต Surface, แต่ Apple ได้แบ่งสายการผลิตของแท็บเล็ตและแล็ปท็อปไว้แยกกันอย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลด้านรูปทรง และระบบปฏิบัติการที่แยกกันโดยสิ้นเชิง
เห็นได้จากมุมมองทางเทคนิค แม้ว่าจะใช้โปรเซสเซอร์ M1 แต่สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ iPad Pro นั้นแตกต่างไปจากเครื่อง Mac มากพอที่จะทำให้การที่ macOS สามารถทำงานบน iPad นั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้แรงเป็นอย่างมาก
ดังนั้น IPad นี้เหมาะกับใคร?
ด้วยการอัปเกรดครั้งใหญ่เป็นจอแสดงผลขนาด 12.9 นิ้วซึ่งมีหน้าจอ Liquid Retina XDR ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟ minute LED 10,000 ดวง จึงค่อนข้างชัดเจนว่าใครเหมาะกับ iPad Pro รุ่นนี้ที่น่าสนใจที่สุด
ใน event demo ได้ไฮไลต์แอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Filmic Pro, Procreate, Apps ของ Adobe และ LumiFusion ซึ่งหมายความว่าแอปจะดึงดูดผู้ใช้สายครีเอทีฟที่ต้องการทำงานแบบพกพามากที่สุด
Adobe ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Apple เพื่อจำลองประสบการณ์แบบเดสก์ทอปอย่างใกล้ชิดบน iPad และยังได้ปรับปรุงชุดผลิตภัณฑ์ให้ทำงานบนเครื่องโดยใช้โปรเซสเซอร์ M1 ได้อีกด้วย
ด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม 2TB และการรองรับ Thunderbolt เพื่อเพิ่มอุปกรณ์เสริม, iPad Pro จึงเป็นสิ่งดึงดูดที่น่าสนใจสำหรับนักสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังและความสะดวกในการพกพา
โซเชียลมีเดียจะได้ประโยชน์อย่างมากสำหรับแอพพลิเคชั่น เช่น Procreate ที่ศิลปินมักแบ่งปันงานศิลปะที่วาดบน iPad เป็นประจำด้วยการส่งไฟล์จาก Procreate โดยตรงลงไปยัง Instagram และแพลตฟอร์มการแชร์อื่น ๆ
การรีเพลย์แบบ Time-Lapse ของ Procreate ยังทำให้ศิลปินสามารถแชร์กระบวนการของตนเองรวมทั้งสร้างบทช่วยสอนได้อีกด้วย
ปรับปรุงคุณภาพเสียง
ความสามารถในการทั้งวาด, ตัดต่อวิดีโอ และแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาในเวลาอันสั้นได้ทำให้ iPad เป็นที่นิยมมากกับศิลปินดิจิตอลที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก