ลองใช้ iPhone ถ่ายโฆษณาโปรดักส์
สวัสดีค่ะสำหรับ ep นี้เราจะมาถ่ายทำวีดีโอโฆษณาสินค้า พูดง่าย ๆ คือให้มาลองเทสถ่ายทำโดยที่ไม่ได้รับการสปอนเซอร์จากสินค้า และก็วันนี้เราจะไม่ใช้กล้องในการถ่ายทำค่ะ เราจะใช้โทรศัพท์มือถือ เหมือนเดิมคือ iPHONE12PROMAX มาลองเทสว่า ถ้าสมมุติว่าเรามีมือถือ 1 เครื่อง เราสามารถถ่ายทำวีดีโอโฆษณาสินค้า ออกมาได้เป็นภาพประมาณไหนบ้างค่ะ
สำหรับ iPHONE12PROMAX ในวันนี้ ค่าความละเอียดที่โอเค แล้วก็ตั้งค่าความละเอียดอยู่ที่ 4K ตั้งค่าเฟรมเรทอยู่ที่ 25fps ซึ่งเป็นแบบปกติที่เราใช้ถ่ายทำงานโฆษณาทั่วไป โดยที่เริ่มต้น เหมือนเดิมค่ะในการการทำวีดีโอขึ้นมา 1 ตัว เราก็ต้องเริ่มตั้งแต่ process นั่นคือ pre-production เราก็ต้องคิดนำเสนอเรื่องก่อน พูดง่าย ๆ ก็คือเราต้องทำสตอรี่บอร์ดขึ้นมาก่อน ว่าเราจะถ่ายช็อตประมาณนี้ แล้วก็ในความยาวที่เรามองไว้ก็คือประมาณซัก 10 ถึง 15 วินาที ช็อตในสตอรี่บอร์ดต้องมีจำนวนช็อต สัมพันธ์กับความยาวของคลิปวีดีโอที่เราจะทำขึ้นมา
มาเริ่มที่ process ในการถ่ายทำงานจริง โดยที่ซีนที่ 1 ถึงซีนที่ 9 เนี่ยเป็นซีนการเปิดตัวของแพ็คเกจสินค้า เราจะใช้ในการ split frame มาเล่นในงานถ่ายโฆษณาตัวนี้ ซึ่งเรามองว่าการ split frame ของเราและเรามีความหมายที่จะสื่อว่า แพ็คเกจนี้รสชาตินี้ มีส่วนผสมหลักของอะไร ไม่ว่าจะเป็นอ่าตัวสเปียร์มินต์ ตัวที่จะเป็นบลูเบอร์รี่ หรือจะเป็นแตงโมเราก็ทำการ split frame กับตัวแพ็คเกจสินค้า รสชาตินั้น แล้วก็วัตถุดิบจริงๆ เพื่อให้คนดูสามารถเห็นภาพแล้วนึกออกแล้วเข้าใจได้ทันทีว่า โอเครสชาตินี้มันคือรสกลิ่นนี้นั่นเอง โดยที่วันนี้เราจะ split frame โดยที่ไม่ใช่ split frame แบบบนล่างหรือว่าแบ่งครึ่งซ้ายขวา วันนี้เราจะแบ่งครึ่งแนวแทยงมุมบ้าง คือเรามองว่ามันเหมาะกับเชปกล่อง แล้วก็มันจะได้เชปที่ 2 อย่างอ่ะ มันประกบกันแล้วมันดูแบบสวยงามดี
โดยมุมภาพสำหรับซีนที่ 1 ถึงซีนที่ 9 ที่เราใช้ในวันนี้จะเป็นมุมที่เป็นแบบ topview ก็คือ overhead shot นั่นเอง ก็คือมุมที่เราจะตั้งกล้อง แล้วก็ถ่ายกดลงมาเจอวัตถุ หรือจะเป็นคน หรือเป็นนักแสดงก็ตาม ในแนวมุมที่เป็น90องศาที่ overhead shot นิยมใช้ก็จะนิยมใช้ในงาน
ด้านการถ่ายทำอาหารอะไรอย่างงี้ เพราะว่ามันได้อะไรที่มันเห็นค่อนข้างเคลียร์ แล้วก็ลูกค้าหรือคนดู target group สามารถเห็นและเข้าใจในสิ่งนั้นได้เลย เช่นการถ่ายพิซซ่าอะไรอย่างงี้ การ represent หน้าพิซซ่าหรือหน้าตาของอาหารจานนั้นไรเงี้ยค่ะ พอถ่ายด้วยมุมท๊อปหรือ overhead shot เนี่ย มันให้เห็นหน้าตาของพิซซ่าชิ้นนั้น ได้เต็มทั้งหน้าค่ะ
กลับมาที่งานโฆษณาของเรา ซึ่งที่เราถ่ายทำ overhead shot ด้วยความที่มันมีหลายแพ็คเกจ หลายรสชาติ รวมถึงตัววัตถุดิบที่มา represent ว่ารสชาติของแพ็คเกจนั้นคืออะไร เพื่อให้ได้ภาพที่มันสวยงาม คือเราต้องมาร์ค มาร์คกิ้งกล่องการวางของกล่อง โดยใช้ดินสอมาร์ค หรือว่าตอนนี้เราใช้มือถือแล้วก็อาจจะเปิด grid ในการดูเฟรมภาพ เพราะว่าการที่เราถ่าย top view อะค่ะ หรือว่าจะเป็น overhead shot ที่เราพูดกันเนี่ย มันจะได้ภาพที่สวยก็ต่อเมื่อว่า แพ็คเกจอันนั้นน่ะมันวางอยู่ที่เดิม ในตำแหน่งเดิม แล้วก็เปลี่ยนสีแพ็คเกจไปเรื่อยๆเลยไรเงี้ยค่ะ ถ้าเกิดสมมุติว่าเราวางมันไม่ตรง มันก็จะเกิดความที่ระยะภาพอะค่ะ มันได้คนละระยะกัน แล้วก็ทำให้ตอนตัดต่อมันดูไม่สมูทค่ะ
สำหรับ background ที่เรานำมาใช้วันนี้ก็คือง่ายๆค่ะ เป็นสิ่งที่คนทั่วไปหากันง่ายๆเลยค่ะ ก็คือกระดาษสี ก็คือกระดาษสีอ่อนหรือสีแข็งที่เอาไว้ใช้ทำงานศิลปะกันตอนเด็กๆ ซึ่งมันเป็นของที่หาง่าย เราก็เลยนำมาใช้ให้ดู แต่ถ้าอยากได้ background ที่มันสวยที่มันเนียนกว่านี้จริงๆ เราต้องสั่ง background ที่เอาไว้ถ่ายทำโดยเฉพาะ ก็คือพวกลิมโบ้สีต่างๆ ซึ่งลิมโบ้สีต่างๆ มันก็จะมีวัสดุให้เลือกหลายวัสดุ มีทั้งเป็น pvc หรือเป็นกระดาษ กระดาษเงากระดาษด้านไรเงี้ยค่ะ สามารถลองเลือกหาซื้อได้ แต่ถ้าไม่มีจริงๆลองเทสใช้กระดาษสีเนี่ยแหละคะทำได้
ต่อมาที่ซีน10-11-12 ในซีนเราดีไซน์ไว้ว่าเราอยากจะให้คนดูเห็น package กล่องชัดเจน เพื่อจดจำว่าแพคเกจกล่องมีหน้าตาเป็นแบบนี้ อยากจะออกไปหาซื้อกัน ก็คือเราจะวางภาพเปลี่ยนจากมุม topview มาเป็น angle ธรรมดาเลย โดยที่จะวางกล้องที่เป็นมือถือของเราวันนี้ใกล้กับตัวแพ็คเกจมากขึ้น สำหรับซีนนี้เราใช้อุปกรณ์เสริมขึ้นมาอีก 1 อย่าง นั่นคือ turntable ถ้าที่บ้านไม่มี turntable สำหรับถ่ายทำ สามารถใช้ถาดหรืออะไรก็ได้ที่มันพอจะหมุนได้ เอามาวาง เสร็จแล้วก็ด้วยความที่ถาดอันเนี้ยมันก็คงมีแบ็คกราวสีที่เราไม่อยากได้ ถ้าเราไม่อยากไปทำในงาน post production เราก็หากระดาษแบล็คกราวที่เราซื้อมาค่ะ มาตัดเป็นวงกลมแล้วก็แปะทับลงไป ทีนี้มันก็จะได้ background ที่รองตรงก้นเป็นสีที่เราจะนำมาใช้ในงานวีดีโอโฆษณา แล้วก็นำแพ็คเกจทั้ง 3 รสชาติมาเก็บสก๊อตเทปติดกาวไว้ เพื่อให้มันตั้งอยู่แล้วก็ใช้มือ manual ในการหมุนเพื่อให้ package แต่รสชาตอะค่ะ เพื่อให้มันหมุนมาจอดที่หน้ากล้อง อันนี้ความที่มันเป็น manual ไม่ได้มีทีมอาร์ตหรือไม่ได้มีเทคนิคอะไรเพิ่มพิเศษ มันก็ต้องลองหมุนไปเรื่อยๆจนกว่าที่มันจะตรงกับหน้ากล้อง แล้วเราก็ใช้เทคนิค speedrun มาเพิ่มความกระชับของซีนนี้ เดี๋ยวจะอธิบายที่ตอนทำ post production เพิ่มเติม
ต่อมาที่ซีนต่อไปคือซีน 13 ของเรา สำหรับซีนนี้เราจะใช้ stopmotion โดยการที่เราจะวาง package เรียงสูงขึ้นไป เพื่อให้มันมีความลูกเล่นในการที่มันดูสนุก โดยที่เราถ่าย stopmotion วิธีนี้ไม่ได้ถ่ายภาพนิ่ง เราใช้ถ่ายเป็นวีดีโอแล้วค่อยไป trim สิ่งที่เราไม่อยากได้ออก ทีนี้ภาพที่ได้มันก็จะเป็นลักษณะ stopmotion อย่างที่เห็นในงานค่ะ
ต่อมาที่ซีนต่อไปคือซีน 13 ของเรา สำหรับซีนนี้เราจะใช้ stopmotion โดยการที่เราจะวาง package เรียงสูงขึ้นไป เพื่อให้มันมีความลูกเล่นในการที่มันดูสนุก โดยที่เราถ่าย stopmotion วิธีนี้ไม่ได้ถ่ายภาพนิ่ง เราใช้ถ่ายเป็นวีดีโอแล้วค่อยไป trim สิ่งที่เราไม่อยากได้ออก ทีนี้ภาพที่ได้มันก็จะเป็นลักษณะ stopmotion อย่างที่เห็นในงานค่ะ
มาที่ซีนสุดท้ายซีนที่ 20 ของเราในวันนี้ เราจะดีไซน์ซีนจบ โดยที่เราใช้เทคนิคในการ reverse เข้ามา โดยติดกล่องแพคเกจกับกระดาษสีที่เราอยากได้ แล้วเราก็ดึงกระดาษสีนั้นน่ะออกไปจากกล้อง ออกไปจากเฟรม เสร็จแล้วพอตอนที่เราทำ post production เราก็รีเวิร์สมันกลับ ทีนี้ภาพที่เพื่อนๆเห็นมันก็จะเป็นภาพที่ กล่องอ่ะค่ะ มันเด้งเข้ามาแทน
โอเคค่ะนี่คือขั้นตอนในการคิดและก็ถ่ายทำ หลังจากขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนในการทำ post production ก็เดี๋ยวเราจะมาอธิบายให้ฟังว่าเราใช้เทคนิคไหนในซีนไหนบ้าง
เรามาเข้าสู่ขั้นตอนการทำ post production นะครับเดี๋ยวเราจะมาพูดถึงเรื่องทริคต่างๆครับที่เราใช้ในงานวีดีโอตัวนี้นะครับว่ามีอะไรบ้างนะครับ ในช็อต 1-9 นะครับ ซึ่งเราเนี่ยเลือกที่จะ split frame แบบแนวทแยงนะครับ หลังจากที่เรานำฟุตเทจมาวางซ้อนกันแล้วนะครับ เราเนี่ยให้คลิกไปที่ฟุตเทจเลเยอร์ที่อยู่ด้านบนนะครับ คลิกที่ไปที่ฟุตเทจแรกปุ๊ป แล้วเราก็ไปที่ effect control ครับ แล้วก็ไปที่เอฟเฟคที่ชื่อว่า opacity ครับ จะเห็นเครื่องมือที่ชื่อว่า free draw brezier นะครับเป็นรูปหัวปากกานะครับ ให้คลิกที่เครื่องมือนั้นครับ จากนั้นนะครับเราก็ไล่ mask จุดที่ต้องการนะครับ ค่อยๆไปทีละจุดและจุดนะครับ อาจจะทำการซูมเข้าไปนะครับเพื่อให้เห็นรายละเอียดนะครับ แล้วก็เราก็ทำแบบเดียวกันนะครับในอีกฟุตเทจนึงนะครับ
ถึงขั้นตอนสุดท้ายนะครับคือการใช้ key frame masking นะครับ ทีละเฟรมเพื่อให้ช็อต split frame เนี่ยที่เปลี่ยนจากแพ็กเกจไปเป็นสเปียร์มินต์เนี่ยค่อยๆเปลี่ยนไปจะช้าๆ มันก็จะเพิ่มลูกเล่นให้กับช็อต split frame เนี่ยดูน่าสนใจยิ่งขึ้นครับ
สำหรับคลิปนี้เนี่ยเราก็มีการใช้เทคนิค speed ramp แล้วเหมือนกันนะครับ ในช็อต 10-11-12 นะครับ ซึ่งพอเราได้ฟุตเทจที่ถ่ายมานะครับ มันจะเป็นการหมุน speed ปกติเลยนะครับ หรือว่าจะเร็วจะช้าเนี่ยเพราะมันเป็นการ manual ใช่ไหมครับ ขั้นตอนต่อมามานะครับ เราเนี่ยเลือกฟุตเทจที่ต้องการ ramp speed นะครับ จากนั้นคลิกขวานะครับที่สัญลักษณ์เอฟเฟคบนฟุตเทจนะครับ แล้วเลือกไปที่ time remapping นะครับไปที่ speed ครับเพื่อที่จะทำให้ฟุตเทจของเราเนี่ยสามารถปรับแต่ง speed ได้ครับจากนั้นไปที่เครื่องมือ pen tool นะครับ หรือว่ากดคีย์ลัดตัว p นะครับ แล้วมาร์คจังหวะหัว กับจังหวะท้ายที่เราต้องการจะ speed ramp นะครับ แล้วคลิกซ้ายนะครับไปที่ฟุตเทจเพื่อมาร์คจุด แล้วไปที่เครื่องมือ selection tool นะครับ หรือคีย์ลัดตัว v นะครับ แล้วนำมาครับไปจิ้มที่เส้น speed นะครับแล้วลากเมาส์ขึ้นเพื่อเพิ่มสปีดนะครับ ซึ่งจะใช้สปีดความเร็วเท่าไหร่เนี่ย ขึ้นอยู่กับเราต้องการนะครับ หรือขึ้นอยู่กับจังหวะที่เราต้องการ cutting นะครับ คลิกขวาที่ฟุตเทจนะครับแล้วเลือก time interpolation นะครับ แล้วกดคลิกเลือกที่ optical flow นะครับ ซึ่งปกติแล้วเนี่ยการเร่งสปีดที่สูงมากนะครับจะทำให้เฟรมภาพบางเฟรมขาดหายไปนะครับ ดังนั้นการเลือกใช้ optical flow ทำให้เฟรมไม่ขาดหายไปแล้วก็ดูสมุธมากขึ้นครับ
มากันที่ช็อต 13 นะครับการทํา stop motion แบบคลิปวีดีโอเนี่ยเราเคยมี tutorial นะครับไว้ในคลิปเก่านะครับ ก็มีลิงค์อยู่ด้านล่างเหมือนกันนะครับ ซึ่งวิธีการง่ายมากเพราะถ่ายคลิปยาวได้มาแล้วใช่ไหมครับ เราก็มา trim ส่วนที่ไม่ต้องการออกไป แล้วก็เอาฟุตเทจที่เราต้องการเข้ามา close gap เข้าด้วยกันนะครับ แล้วก็อาจจะมีการปรับแต่งนิดหน่อยตามสปีดที่เราต้องการนะครับ โดยท้ายของช็อต 13 นะครับเรามีการใส่ตัว split transition นะครับเข้ามานะครับเพื่อให้มันแยกออกจากกันอย่างนี้นะครับ เพื่อเล่าไปสู่ช็อต 14 นะครับ โดยการใช้ split transition นะครับ ให้เราเข้าไปที่ effect ครับ แล้วก็คลิกเข้าไปที่ split transition นะครับแล้วก็ลาก effect ตัวนี้นะครับเข้ามาใส่ฟุตเทจที่เราต้องการครับ จากนั้นเนี่ยเราสามารถปรับความเร็วนะครับ คีย์เฟรมมันได้ว่าเราต้องการให้เขาเนี่ย split ไวหรือช้า หรือออกซ้ายออกขวามากน้อยแค่ไหนครับผม
มาถึงที่สุดท้ายนะครับ ช็อตปิดช็อตที่ 20 นะครับ เราใช้เทคนิคที่เบสิคมาก ง่ายมากครับนั่นคือการใช้ reverse speed นะครับการใช้ reverse speed ทำได้ง่ายมากๆครับ แค่เราเนี่ยคลิกขวาที่ฟุตเทจนะครับ แล้วก็ไปที่ speed duration นะครับ จากนั้นให้เราถูกที่ช่อง reverse speed ครับ แล้วก็กด ok ครับ แค่นี้นะครับ หลังจากกด ok ปุ๊บเราจะได้ฟุตเทจที่มันเล่นจากข้างหลังไปข้างหน้าครับผม การใช้ช็อตแบบนี้นะครับเราควรดีไซน์มาตั้งแต่ขั้นตอนการทำ pre-production ว่าเราอยากให้เขาพุ่งเข้ามายังไง แล้วเรามีวิธีการอย่างไรในการที่จะใช้เทคนิคง่ายๆพวกนี้เข้ามาช่วยครับ
นี่เป็นการที่เราใช้กล้องโทรศัพท์มือถือ iPHONE12PROMAX มาใช้ถ่ายทำงานวีดีโอโฆษณา ซึ่งสำหรับหนึ่งมองว่ามันสามารถถ่ายทำงานวีดีโอโฆษณาตัวนึงได้เลย ถ้าเพื่อนๆมีกล้องมือถือที่บ้าน ก็ลองหยิบนำมาเล่นลองใช้กับสินค้าที่ตัวเองมีอยู่ สำหรับวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ถ้าใครที่ชอบคลิปนี้ช่วยกดไลค์ กดแชร์ และกด subscribe ให้กับช่องด้วย ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมสามารถถามที่ใต้คอมเม้นคลิปนี้ได้เลย หนึ่งและทีมงานค่ะจะมาช่วยกันตอบ ยังไงก็สามารถติดตามเทคนิคในการถ่ายทำงานไปวิดิโอโฆษณา หรือเทคนิคอื่นๆเกี่ยวกับกล้อง หรือการจับภาพสามารถเพิ่มเติมได้เลย หรือว่าสามารถเก็บตัวตามข้างนี้ได้เลยค่ะ
หากผู้ชมคนใดสนใจ สามารถดูวิดีโอได้ที่ Youtube:https://youtu.be/e_fGGddzDQM
