เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับยุคของ augmented influencer
Litho สามารถเปลี่ยน TikToker ให้เป็น CGI ที่สุดยอดได้ ป้ายต่อไปน่ะเหรอ? ฮอลลีวูด
มันเป็นช่วงบ่ายที่เปียกและเยือกเย็นในช่วงกลางเดือนมกราคมในช่วง lockdown. ถึงกระนั้น สูงขึ้นไปเหนือถนน Edgware Road อันเงียบสงบของลอนดอน ในห้องนอนบนบล็อคของหอคอยที่ดูไม่ธรรมดา ได้ทำให้เสี้ยวหนึ่งของเมืองหลวงเล็ก ๆ เปลี่ยนไป. ดอกเดซี่บานในอากาศ หมีเท็ดดี้ที่มีชีวิตเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา ย่างก้าวไปกับพื้นอย่างเมามัน. มีวงแหวนของดาวเสาร์โคจรอยู่บนเพดาน. ภาพกราฟฟิคเต่าแหวกว่ายเข้ามา ในขณะที่กำแพงถูกเปลี่ยนให้เป็นสีของมหาสมุทร
ฉากนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งผ่าน augmented reality (AR) ผ่านการคลิกและเลื่อนเพียงไม่กี่ครั้งด้วย Litho: คอนโทรลเลอร์ที่มีพลังในการเรียกการมองภาพแบบ 3 มิติ, ความฝันของศิลปิน, และวิญญาณเร่ร่อน. ผู้ที่ทำการเสกการแสดงอันน่าเหลือเชื่อนี้ขึ้นมาก็คือ Nat Martin นักประดิษฐ์วัย 26 ปีของ Litho. “ไม่มีใครพิสูจน์ว่า AR บนมือถือสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องมาก่อน ผู้เล่น Pokémon Go ส่วนใหญ่มักปิดฟังก์ชั่นนี้ด้วยความรวดเร็ว” เขากล่าว. “ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถสำรวจโลกเสมือนจริงในขณะที่โต้ตอบกับชีวิตจริงได้”.
Litho นั้นเริ่มใช้งานโดยการสวมไปที่ระหว่างนิ้ว และมันถูกติดตั้งมาด้วยแทร็กแพดและเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านล่าง. นั่นหมายความว่า ผู้ใช้สามารถควบคุมโลกเสมือนจริงได้ในมือข้างเดียว และอีกข้างหนึ่งก็สามารถดูสิ่งที่พวกเขาทำผ่าน iPhone ซึ่งทำหน้าที่เป็น “แว่นตา AR”. ผ่านแอพที่ใช้งานด้วยกันที่เรียกว่า Diorama ซึ่งเป็นไลบรารีของอุปกรณ์ประกอบฉากที่ทำขึ้นโดย 3D artist ที่สามารถโยนลงไปในฉาก แล้วทำให้เคลื่อนไหวโดยการลากมันไปในพื้นที่ที่ต้องการ. วัตถุสามารถโต้ตอบทางกายภาพได้เช่นกัน – เช่น ฉากที่ค้างคาวที่บินผ่านมาโฉบลงไปกระแทกพีระมิดม้วนกระดาษชำระที่เป็น CGI
สำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ DIY และครีเอเตอร์ในโซเชียลมีเดีย อุปกรณ์จะช่วยปลดล็อกชุดเอฟเฟกต์พิเศษได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส. “คุณสามารถสร้างภาพ CGI คุณภาพสูงได้” Martin อธิบาย. “ปัจจุบัน ทางเลือกอื่นของ Litho คือซอฟต์แวร์ที่เฉพาะเจาะจงซึ่งมีราคาหลายพันปอนด์ และต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้”. ซึ่งมันจะไม่ได้เป็นแค่กิจกรรมที่คุณทำในช่วยล็อคดาวแน่นอน. “คนอาจต้องมีเวลาลองใช้งานให้มากขึ้นในตอนนี้ แต่ตัวอย่างทั้งหมดของเรานั้นถ่ายทำในที่กลางแจ้ง. มันเป็นการยากที่จะสร้างวิดีโอที่ยอดเยี่ยมในห้องนอนของคุณด้วย AR ซึ่งเป็นที่ ๆ คุณจะถูกจำกัดไว้ ด้วยกรอบของความเป็นจริง”
ความสามารถด้านวิดีโอของ iPhone นั้นมีคุณภาพในระดับฮอลลีวูดไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Unsane ของปี 2018 ที่ถ่ายโดย Steven Soderbergh ผู้กำกับที่ชนะรางวัลออสการ์ด้วย iPhone 7 Plus. แต่จนถึงตอนนี้ visual effect ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับคนส่วนใหญ่. Martin เชื่อว่า Litho และเครื่องมือสร้างภาพยนตร์ Diorama จะช่วยยกระดับการแข่งขันในเรื่องเหล่านี้. “ผู้ใช้ส่วนใหญ่ของเรามาจาก TikTokers: ซึ่งเป็นเด็กอายุ 15 ปีที่พยายามอย่างมากในสร้างคอนเทนต์ แต่ต้องมาผิดหวังเมื่อเอฟเฟคที่มีให้เลือกปรับนั้นมีน้อย. พวกเขาไม่ใช่มืออาชีพและไม่ต้องการซื้อซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปราคาแพง นั่นคือสิ่งที่เราเห็นสิ่งที่ Litho จะเป็นไปได้มากที่สุด – นั่นคือการสร้างวิดีโอ TikTok ที่น่าสนใจ”
มาร์ตินสร้างอุปกรณ์ต้นแบบโดยเริ่มจากการเชื่อมต่อ gyroscope, magnetometer, และ accelerometer เข้ากับ Microsoft VR HoloLens ที่เปลี่ยนนิ้วของเขาเป็นเลเซอร์พอยเตอร์. มันมีความคล้ายกับไม้กายสิทธิ์ดิจิทัล: ที่เราสามารถเสกเวทมนตร์ซึ่งเป็นภาพเสมือนลงไปบนพื้นที่รอบ ๆ ที่เป็นกายภาพ. “ด้วยชุดแว่น VR คุณจำเป็นต้องใช้ hand tracker ที่จะต้องถือไว้ใกล้ใบหน้าอย่างผิดธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา. ด้วย AR คุณสามารถเดินไปรอบ ๆ ข้างนอก และสัมผัสกับสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณได้. และการสร้างภาพยนตร์ก็เอนเอียงไปสู่จุดที่เทคโนโลยีกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้คนเข้ามาสัมผัสการถ่ายภาพยนตร์ได้ง่ายกว่าเดิม. ไม่มีใครอยากถือโทรศัพท์เป็นเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงในโลกแห่งความเป็นจริง”
แต่ศักยภาพของ Litho นั้นเหนือกว่า influencer และ meme ที่เป็นไวรัล. อุปกรณ์นี้มีศักยภาพ ที่จะสร้างนวัตกรรมการสร้างภาพยนตร์ได้ด้วยตัวเอง. “ทีมงานสามารถใช้มันเพื่อวางเฟรมตามสถานที่ถายทำ และเห็นภาพว่าพวกเขาต้องการให้ CGI ออกมาเป็นอย่างไร” มาร์ตินกล่าว. “คุณสามารถใช้อุปกรณ์ประกอบฉาก อัปโหลดรูปของพวกมันไปยัง Diorama จากนั้นก็ทำให้มันเคลื่อนไหวได้ เพื่อให้คุณมีภาพคร่าวๆ ก่อนที่จะทำงาน post-production. ด้วยการที่ iPhone ได้รับการพัฒนาอยู่ตลอด ผู้คนจึงสามารถสร้างสิ่งต่างๆบนมือถือและมีการสร้าง visual effect ระดับมืออาชีพได้”
อุปกรณ์นี้ยังมีศักยภาพในการนำไปใช้กับ AR ได้อีกด้วย. การระบาดครั้งใหญ่นี้ ทำให้เราได้เห็นแบรนด์ต่างๆผสานรวมเทคโนโลยีเพื่อให้เข้ากับประสบการณ์ในช่วงล็อคดาวได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น แหวนเพชรที่คุณสามารถสวมใส่ผ่านเลนส์กล้องในโทรศัพท์ของคุณเอง. Martin เชื่อว่า AR จะสามารถถูกนำมาไปใช้งานได้ดีกว่านี้ในอนาคต. “การปฏิสัมพันธ์ทางดิจิทัลส่วนใหญ่ของเราไม่ได้มีข้อจำกัดทางด้านพื้นที่. อนาคตของแว่น AR จะอยู่ได้ในทุกที่และรวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกัน: [ลองจินตนาการ] ว่าคุณสามารถเดินไปตามถนน มองขึ้นไปและเลือกเพลงถัดไปของคุณได้ด้วยการลากมันเข้าหาตัวคุณจากขอบฟ้าอีกฟาก”